หนุ่มๆ ที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นหรือวัยทำงานในบางครั้ง หรือทุกเวลาจะมีกลิ่นตัวที่แรงมากๆ ทั้งที่อาบน้ำทำความสะอาดเป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังไม่หาย วันนี้เรามาดูสาเหตุกันดีกว่าว่าเกิดจากอะไร
1. ต่อมเหงื่อ
กลิ่นตัวของคนเราจะมีอยู่สองประเภท แบบที่มีกลิ่นกับแบบที่ไม่มีกลิ่นโดยแบบที่ไม่มีกลิ่นจะกระจายตัวอยู่ทั่วร่างกายเพื่อทำการขับเหงื่อเมื่อร่างกายใช้กิจกรรมหนักๆ ส่วนแบบที่มีกลิ่นนั้นจะมีอยู่ตาม รักแร้ ขาหนีบ หนังศีรษะ ก้น แผ่นหลัง ซึ่งเหงื่อที่ออกจากต่อมเหงื่อที่มีกลิ่นนั้นจะมีลักษณะเหนียวคล้ายขี้ผึ้งและมีไขมันปนออกมา โดยในผู้ชายนั้นจะมีการขับเหงื่อที่มากกว่าผู้หญิงค่อนข้างมาก
2. อาหาร
อาหารที่มีเครื่องเทศ หรืออาหารที่มีรสจัดนั้นเป็นตัวการที่ทำให้คุณเกิดกลิ่นตัวได้ และอาหารเหล่านี้เมื่อตกค้างในลำไส้ก็จะก่อให้เกิดกลิ่นตัวที่มีความเฉพาะเจาะจงอีกด้วย
3. ทำความสะอาดจนเกินไป
การทำความสะอาดที่มากจนเกินไปจะทำให้ร่างากายขาดความชุ่มชื่นจนต้องทำการผลิตเหงื่อออกมาเพื่อป้องกันร่างกายไม่ให้แห้งจนเกินไป ยิ่งโดยเฉพาะจุดที่ต้องการกำจัดกลิ่นเช่น รักแร้ หากมีการขัดถูที่มากจนเกินไปก็จะทำให้ร่างกายยิ่งเร่งการสร้างน้ำมันที่มีไขมันเพื่อมาปกป้อง กับกลายเป็นว่ายิ่งไปกระตุ้นให้เกิดกลิ่นขึ้นมามากกว่าเดิมอีกด้วย
4. อารมณ์
เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องพรีเซนต์งานหรือโกรธ โมโห สังเกตดูว่าร่างกายจะผลิตเหงื่อออกมามากกว่าปกติ แล้วเหงื่อพวกนี้นี่แหละที่เป็นตัวการของกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะต่อมเหงื่อจากรักแร้จะไม่ได้ขับแค่เหงื่อออกมาแต่ยังมีไขมันที่ผ่านต่อมกลิ่นออกมาด้วย ทำให้คุณมีกลิ่นตัวแรงจนเกินไป
5. ฮอร์โมน
จะสังเกตได้ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นหรือกำลังเริ่มแตกเนื้อหนุ่ม ร่างกายจะเริ่มมีการปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลากลิ่นตัวจะเริ่มแรงมากขึ้นซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติในวัยรุ่นเลยทีเดียว สิ่งที่ต้องทำก็คือการทำความสะอาดร่างกายและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดับกลิ่นที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้มีกลิ่นไปให้คนรอบข้างได้กลิ่นนั่นเอง
เมื่อทราบสาเหตุกันแล้วหนุ่มๆ ทั้งหลายก็ควรหาวิธีที่จะช่วยลดกลิ่นตัวลงเพื่อเรียกความมั่นใจของตัวเองกลับมา ดีกว่าปล่อยไว้ให้คนอื่นได้กลิ่นแล้วคุณรู้สึกเสียหน้านะ
#กลิ่นตัวแรงในผู้ชาย # สาเหตุกลิ่นตัว #ลดกลิ่นตัว #น้ำหอมผู้ชาย